ราคาน้ำมันแพง / ประสิทธิ์ ตินารักษ์

วิกฤติอุตสาหกรรมก่อสร้างที่มีต้นเหตุมาจากน้ำมันขึ้นราคาหรือ oil shock เกิดขึ้นแล้ว 2 ครั้ง คือ oil shock ปี 2516 oil shock ปี 2523 ผลกระทบโดยตรงต่ออุตสาหกรรมก่อสร้างคือ ราคาวัสดุก่อสร้างพุ่งพรวดและต้นทุนโดยรวมอื่นๆ ขยับตาม แม้ว่าในส่วนวัสดุก่อสร้างจะมีมาตรการปรับการคิดราคาต้นทุนตามความเป็นจริงหรือที่เรียกว่าการปรับค่า "K" เพื่อบรรเทาปัญหาของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมก่อสร้าง กระนั้นข่าวสารเกี่ยวกับราคาน้ำมันจะปรับตัวขึ้นลงก็เป็นเรื่องที่ประมาทไม่ได้ การใช้พลังงานของโลกในปัจจุบันน้ำมันทรงอิทธิพลอย่างมาก (มีต่อ)

แม้ว่าจะมีการคิดค้นพัฒนาพลังงานในรูปแบบอื่นๆ อาทิ พลังงานนิวเคลียร์ พลังงานธรรมชาติรูปแบบต่างๆ พลังงานลม พลังงานจากคลื่นน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ รวมถึงพลังงานจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นต้น แต่โดยความสะดวกและในฐานะครอบงำอุตสาหกรรม บรรษัทน้ำมันยังทรงอิทธิพลมากที่สุด ที่เห็นชัดเจนคือ ราคาวัสดุก่อสร้างปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง หมายความว่าต้นทุนของอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างเพิ่มขึ้นการรับมือกับเรื่องนี้ จะอาศัยเพียงค่า K ย่อมไม่เพียงพอการจัดการแผนปฏิบัติการก่อสร้างที่ไม่ผิดพลาดเป็นหัวใจสำคัญ แนวโน้มในช่วงครึ่งปีหลังแม้ยังไม่มีปัญหาวิกฤตน้ำมันแพง ปูนซีเมนต์ก็จะมีการปรับราคาเพิ่มขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว (มีต่อ)

โดยเฉพาะมีการก่อสร้างเพิ่มขึ้นตามโครงการของภาครัฐที่ได้รับเงินอัดฉีดจากแผนการมิยาซาวา ผลก็คือความต้องการใช้ปูนซีเมนต์เพิ่มขึ้นในช่วงปลายปี ในขณะที่การก่อสร้างภาคเอกชนจะเริ่มมีมากขึ้นอันเป็นผลจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประสบผลสำเร็จในการประนอมหนี้ และรัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติมและจะได้ผลในการผลักดันให้เกิดการซื้อขายโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัย นอกจากนี้ข้อบังคับทางกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวกับการก่อสร้างก็เพิ่มต้นทุนให้ผู้รับเหมาแม้ว่ามีความจำเป็นทางสังคม เพราะลดทอนการสร้างมลภาวะแก่สภาพแวดล้อม