กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานมาตรฐานชีวิตใหม่ของคนงาน

ความแร้นแค้นจากสภาพเศรษฐกิจที่บีบบังคับในปัจจุบันนี้ นอกจากจะมีผลทำให้การพัฒนาด้านอสังหาริมทรัพย์ต้องซบเซาลงไปในช่วงที่ผ่านมาแล้ว แรงงานก่อสร้างก็โดนผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจที่โซซัดโซเซนี้ด้วยเช่นกัน ในขณะนี้นอกจากมีแรงงานก่อสร้างที่มุ่งเข้าแออัดยัดเยียดกันในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงที่ผ่านมาอย่างมากมายถึง 2,020,000 คน แรงงานอพยพเหล่านี้มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป จนถึงอายุ 50 - 60 ปี มีทั้งการอพยพมาทั้งครอบครัวและมาเริ่มตั้งหลักปักฐานกันใหม่ ปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นตามมาก็คือ หากครอบครัวที่มีลูกยังเล็ก ทำให้ต้องเป็นภาระของคนงานก่อสร้างเหล่านี้อีกประการหนึ่งตามมาด้วย อันจะนำมาซึ่งปัญหาสังคมที่จะชักนำให้เด็กที่ไม่ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีนั้นไปก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมาอย่างมากมาย จากปัญหาดังกล่าวจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีหน่วยงานโดยเฉพาะที่เข้ามาดูแลความเป็นอยู่ของคนงานก่อสร้างโดยเฉพาะ "กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน" ซึ่งสังกัดกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม เป็นหน่วยงานดังกล่าวที่จะเข้าดูแลสารทุกข์สุกดิบของคนงานก่อสร้างเหล่านี้ ศักดิ์ชัย ศักดิ์กุลวงศ์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เปิดเผยถึงนโยบายของกรมฯ และความคืบหน้าของงานที่ดำเนินการไปแล้วและยังไม่ได้ดำเนินการ ทางกรมฯ ได้จัดทำโครงการการจัดสวัสดิการแก่ลูกจ้างคนงานก่อสร้างและบุตร เพื่อให้คนงานและเด็กมีความปลอดภัยและสวัสดิการในการทำงาน เพื่อช่วยให้ลูกจ้างมีขวัญและกำลังใจในการทำงาน (มีต่อ)

สำหรับนโยบายของกรมสวัสดิการฯ นั้น ทางกรมเน้นหนักที่จะส่งเสริมให้ไซท์งานก่อสร้างทั้งหลายให้ความเอาใจใส่แก่ลูกหลานคนงานก่อสร้างให้มากที่สุด โดยเตรียมเจ้าหน้าที่ออกเยี่ยมตามไซท์งานก่อสร้างทั้งหลาย เพื่อให้มีการจัดตั้งสถานเลี้ยงดูลูกหลานของลูกจ้าง โดยจะต้องประสานงานการจัดตั้ง Nursery" ของคนงานก่อสร้างเหล่านี้กับทางกรมประชาสงเคราะห์ กรมการพัฒนาชุมชนและกรุงเทพมหานคร นอกจากนั้นทางกรมฯยังเน้นหนักที่จะส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กซึ่งเป็นบุตรของคนงานก่อสร้างได้รับการศึกษาภาคบังคับโดยจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายอุปกรณ์การเรียนคนละไม่เกิน 300 บาทต่อเดือน อย่างไรก็ตามในปัจจุบันทางกรมสวัสดิการฯ มิได้ดำเนินโครงการ"โรงเรียนลูกคนงานก่อสร้าง" เป็นการเฉพาะแต่ได้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์เด็กเล็กวิทยาเขตสิรินธรราชวิทยาลัย ณ ตำบลอ้อมใหญ่ อ.สามพราน จ.นครปฐม ร่วมกับวัดบวรนิเวศวิหาร ตามพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีโดยรับเลี้ยงเด็กก่อนวัยเรียน ซึ่งเป็นลูกหลานของผู้ใช้แรงงาน ในจังหวัดสมุทรสาครและนครปฐม และในปี 2542 ทางกรมสวัสดิการฯ ได้ร่วมกับวัดบวรนิเวศและได้ประสานงานกับสภากาชาดไทยขอใช้สถานที่บริเวณ ต.บางปูใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศูนย์เด็กเล็กแห่งใหม่ ซึ่งทางสภากาชาดไทยได้พิจารณาอนุญาตให้ใช้สถานที่ได้คาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2542 และสามารถเปิดรับบุตรหลานของผู้ใช้แรงงานเข้ารับการดูแลได้ภายในปี 2543