การศึกษาเปรียบเทียบการเสริมน้ำมันปลาที่ระดับต่างๆ ในอาหารสุกรต่อสมรรถภาพการผลิตและคุณภาพซาก / ปัทมา กฤษะเสน ... [และคนอื่นๆ]

Contributor(s): ปัทมา กฤษะเสนCall Number: INDEX Material type: ArticleArticleSubject(s): สุกร -- การเลี้ยง | สุกร -- วิจัย | สุกร -- อาหาร In: แก่นเกษตร ปีที่ 28 ฉบับที่ 2 (เมษายน - มิถุนายน 2543) หน้า 79-88Summary: การนำน้ำมันปลาทูน่า ซึ่งเป็นแหล่งโอเมก้า-3 เสริมลงในอาหารเพื่อเลี้ยงสุกรเพศเมียพบว่าสุกรกลุ่มที่ได้รับอาหารเสริมน้ำมันตับปลา 1% มีสมรรถภาพการผลิตดีกว่าสุกรกลุ่มควบคุมที่เสริมน้ำมันปลา 3% สำหรับคุณภาพซากของสุกรพบว่าสุกรกลุ่มควบคุมมีแนวโน้มดีกว่าทุกกลุ่มการทดลอง ดังนั้นเมื่อพิจารณาผลการเสริมน้ำมันปลาที่ระดับต่างๆ ในสูตรอาหารสุกร พบว่าการเสริมน้ำมันปลาที่ระดับ 1% เป็นระดับการเสริมที่เหมาะสมที่สุด (มีต่อ)Summary: ถึงแม้จะมีคุณภาพด้อยในเรื่องของคุณภาพซาก แต่สุกรกลุ่มที่เสริมน้ำมันปลา 1% จะส่งผลต่อการเพิ่มปริมาณกรดไขมันไม่อิ่มตัวชนิดโอเมก้า -3 ในเนื้อได้มากกว่าปกติ ทำให้การบริโภคเนื้อสุกรเกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้บริโภคที่มีภาวะการเสี่ยงต่อการเกิดโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด และเป็นแนวทางส่งเสริมให้เกษตรกรเลี้ยงสุกรให้ได้คุณภาพตามความต้องการของผู้บริโภคด้วย
Star ratings
    Average rating: 0.0 (0 votes)
No physical items for this record

การนำน้ำมันปลาทูน่า ซึ่งเป็นแหล่งโอเมก้า-3 เสริมลงในอาหารเพื่อเลี้ยงสุกรเพศเมียพบว่าสุกรกลุ่มที่ได้รับอาหารเสริมน้ำมันตับปลา 1% มีสมรรถภาพการผลิตดีกว่าสุกรกลุ่มควบคุมที่เสริมน้ำมันปลา 3% สำหรับคุณภาพซากของสุกรพบว่าสุกรกลุ่มควบคุมมีแนวโน้มดีกว่าทุกกลุ่มการทดลอง ดังนั้นเมื่อพิจารณาผลการเสริมน้ำมันปลาที่ระดับต่างๆ ในสูตรอาหารสุกร พบว่าการเสริมน้ำมันปลาที่ระดับ 1% เป็นระดับการเสริมที่เหมาะสมที่สุด (มีต่อ)

ถึงแม้จะมีคุณภาพด้อยในเรื่องของคุณภาพซาก แต่สุกรกลุ่มที่เสริมน้ำมันปลา 1% จะส่งผลต่อการเพิ่มปริมาณกรดไขมันไม่อิ่มตัวชนิดโอเมก้า -3 ในเนื้อได้มากกว่าปกติ ทำให้การบริโภคเนื้อสุกรเกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้บริโภคที่มีภาวะการเสี่ยงต่อการเกิดโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด และเป็นแนวทางส่งเสริมให้เกษตรกรเลี้ยงสุกรให้ได้คุณภาพตามความต้องการของผู้บริโภคด้วย