"ความจริงคือ ประชาชนต้องรับรู้ ขบวนการที่โปร่งใส" ไกร ตั้งสง่า กรรมการสมาคม วสท.-กรรมการสมาคม วปท.

โครงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ กำหนดเปิดให้บริการได้ในปี 2547 แต่ก็ต้องเลื่อนออกไป เพราะไม่สามารถก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งเงินกู้จากเจบิคยังไม่อนุมัติ และมีทีท่าว่าจะทบทวนกันใหม่ โครงการก่อสร้างฯ นับเป็นโครงการที่ใช้ระยะเวลาก่อสร้างยาวนานมากกว่า 40 ปี ผ่านมือนายกรัฐมนตรีมากถึง 14 คน จนกระทั่งถึงนายกฯ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คนที่ 15 เข้ามาดูแลโครงการนี้ (มีต่อ)

ดังนั้นจึงเกิดการเคลื่อนไหวและรวมตัวกันขึ้น 4 สมาคมวิชาชีพคือ 1.สมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) 2.สมาคมวิศวกรที่ปรึกษา 3.สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย 4.สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อเข้ามามีบทบาทในการติดตามการประมูลโครงการก่อสร้าง โดยเฉพาะส่วนงานก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสาร (มีต่อ)

และอาคารเทียบเครื่องบินของสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อผลักดันให้ขบวนการประมูลการก่อสร้างให้ถูกต้องทั้งในระดับประเทศ และสากล แต่เหตุการณ์กลับผิดคาดเมื่อ นายสมเจตน์ ทิณพงษ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ท่าอากาศยานกรุงเทพแห่งใหม่ (บทม.) ยื่นฟ้องคดีอาญา ไกร ตั้งสง่า กรรมการสมาคมวิศวกรรมสถานในพระบรมราชูปถัมภ์และกรรมการสมาคมวิศวกรรมที่ปรึกษาแห่งประเทศไทยในข้อหาหมิ่นประมาท ทำให้การก่อสร้างต้องหยุดชะงัก (มีต่อ)

และนายไกร ตั้งสง่า ได้กล่าวว่า บทม.เป็นบริษัทของรัฐซึ่งจะต้องรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และเปิดเผยข้อมูลที่ประชาชนควรรู้ ควรรับทราบ เพราะเป็นสิทธิของประชาชน ตามที่กฎหมาย พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารฯ 2540 กำหนดไว้ กรณีของไกร ตั้งสง่า คงจะเป็นเสมือน "ใบเตือน" แก่ผู้แสวงหาและเผยแพร่ความจริงต่างๆ เกี่ยวกับสนามบินสุวรรณภูมิหรือไม่ ไม่อาจทราบได้ แต่อย่างไรเสีย "ความจริงย่อมเป็นความจริง" ซึ่งในที่สุดแล้วก็จะต้องเปิดเผยออกสู่สาธารณชน