ผนังอาคารสูงที่ใช้งานในปัจจุบัน / ชนันต์ แดงประไพ

By: ชนันต์ แดงประไพCall Number: INDEX Material type: ArticleArticleSubject(s): การก่อสร้าง | อาคาร | SCI-TECH In: ข่าวช่าง ปีที่ 26 ฉบับที่ 297 (มกราคม 2540) หน้า 54 - 56Summary: การทำผนังอาคารสูงในปัจจุบัน สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว จากเดิมที่เคยทำผนังด้วยการก่ออิฐฉาบปูน ซึ่งต้องใช้เวลาในการหยิบอิฐทีละก้อน หรือทำเป็นผนังคอนกรีตเสริมเหล็ก ที่ต้องมีขั้นตอน และต้องรอกว่าผนังจะใช้การได้ นอกจากนั้นการทำผนังอาคารในที่สูง (มีต่อ)Summary: ยังเกิดอันตรายได้มากอีกด้วย ผนังอาคารปัจจุบันจึงได้พัฒนารูปตลอดเวลา เพื่อย่นระยะเวลาการก่อสร้าง และมีทางเลือกในการออกแบบมากขึ้น ผนังกระจก เป็นผนังที่นิยมใช้กับอาคารสูง เพราะนอกจากมีน้ำหนักเบาแล้ว ยังใช้ประโยชน์ เพื่อลดความร้อนจากแสงแดด (มีต่อ)Summary: ช่วยประหยัดพลังงาน ที่ใช้กับเครื่องปรับอากาศได้อย่างดี ยิ่งกว่านั้นผนังกระจกประเภทต่างๆ ยังทำให้อาคารมีความสวยงาม ภูมิฐาน มองดูทันสมัยในสังคมเศรษฐกิจปัจจุบัน ผนังคอนกรีตหล่อสำเร็จ เป็นผนังที่มีความแข็งแรง มีความรวดเร็ดในการผลิต (มีต่อ)Summary: สามารถทำได้ครั้งละจำนวนมาก โดยอาจผลิตในโรงงานหรือบนพื้นราบ ของบริเวณพื้นที่ก่อสร้าง นอกจากนั้นการนำมาติดตั้งยังสามารถทำได้รวดเร็ว และมีความปลอดภัยสูงกว่าการทำผนังแบบก่ออิฐ หรือผนังคอนกรัตเสริมเหล็ก ผนังสำเร็จรูป เป็นผนังที่ได้รับการพัฒนา (มีต่อ)Summary: และนำมาใช้กับงานอาคารสูงมากขึ้นตามลำดับ ซึ่งชิ้นงานเหล่านี้ สามารถผลิตได้ในโรงงาน ลักษณะของผนังถูกออกแบบให้สัมพันธ์กันระหว่าง ส่วนที่เป็นโครงสร้างและงานสถาปัตยกรรม มีหลายลักษณะเช่น ออกแบบเป็นผนังคอนกรีตเสริมเหล็ก ที่ทำผิวหน้าให้เสร็จเรียบร้อย (มีต่อ)Summary: โดยการปูกระเบื้องตามสีและขนาดที่กำหนดไว้ หรืออาจทำเป็นผผวผนังล้างหรือหินขัด เป็นต้น ส่วนผนังที่มีการติตตั้งวางกรอบและบานประตูหน้าต่าง เช่น ไม้อลูมิเนียมและกระจก ก็เป็นส่วนประกอบ ติดตั้งไว้กับผนังให้เสร็จสมบรูณ์ แล้วจึงยกขึ้นไป ติดตั้ง(มีต่อ)Summary: บนตัวอาคาร ปัจจุบันยังมีความพยายามที่จะพัฒนา การผลิตผนังสำเร็จรูปให้มีความสมบรณ์ยิ่งขึ้น โดยการฝังท่องานระบบ เช่น ระบบประปาไฟฟ้า เข้าไปให้เรียบร้อยก่อนนำไปติดตั้ง ทั้งนี้โดยวัตถุประสงค์หลัก คือการใช้เทคโนโลยีมาพัฒนาการทำงานก่อสร้าง (มีต่อ)Summary: ให้มีความรวดเร็ว และลดอันตรายจากการทำงานในที่สูงให้น้อยลงได้มาก อย่างไรก็ตามการทำผนังด้วยวิธีดังกล่าวนี้ จำเป็นต้องอาศัยผู้มีประสบการณ์ มีความชำนาญเพียงพอในการวางแผน และบริหารงานก่อสร้าง มีความละเอียอถี่ถ้วนในการออกแบบ และควบคุมการผลิตชิ้นงาน ให้มีความถูกต้องสูง ปัญหาที่พบบ่อย สำหรับการใช้ ผนังสำเร็จรูปดังกล่าว อยู่ที่ความคลาดเคลื่อน ของระยะขนาด (มีต่อ)Summary: ของชิ้นงาน ที่มีมากเกินกำหนด การเกิดความเสียหายขณะขนส่ง การยกติดตั้งและความเสีย เนื่องจากการทำงานประเภทอื่น หลังจากติดตั้งผนังแล้วเป็นต้น ซึ้งในทำให้เสียเวลา ในการแก้ไข ดั้งนั้นควร มีการเตรียมการควบคุม และตรวจสอบอย่างใกล้ชิด
Star ratings
    Average rating: 0.0 (0 votes)
No physical items for this record

การทำผนังอาคารสูงในปัจจุบัน สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว จากเดิมที่เคยทำผนังด้วยการก่ออิฐฉาบปูน ซึ่งต้องใช้เวลาในการหยิบอิฐทีละก้อน หรือทำเป็นผนังคอนกรีตเสริมเหล็ก ที่ต้องมีขั้นตอน และต้องรอกว่าผนังจะใช้การได้ นอกจากนั้นการทำผนังอาคารในที่สูง (มีต่อ)

ยังเกิดอันตรายได้มากอีกด้วย ผนังอาคารปัจจุบันจึงได้พัฒนารูปตลอดเวลา เพื่อย่นระยะเวลาการก่อสร้าง และมีทางเลือกในการออกแบบมากขึ้น ผนังกระจก เป็นผนังที่นิยมใช้กับอาคารสูง เพราะนอกจากมีน้ำหนักเบาแล้ว ยังใช้ประโยชน์ เพื่อลดความร้อนจากแสงแดด (มีต่อ)

ช่วยประหยัดพลังงาน ที่ใช้กับเครื่องปรับอากาศได้อย่างดี ยิ่งกว่านั้นผนังกระจกประเภทต่างๆ ยังทำให้อาคารมีความสวยงาม ภูมิฐาน มองดูทันสมัยในสังคมเศรษฐกิจปัจจุบัน ผนังคอนกรีตหล่อสำเร็จ เป็นผนังที่มีความแข็งแรง มีความรวดเร็ดในการผลิต (มีต่อ)

สามารถทำได้ครั้งละจำนวนมาก โดยอาจผลิตในโรงงานหรือบนพื้นราบ ของบริเวณพื้นที่ก่อสร้าง นอกจากนั้นการนำมาติดตั้งยังสามารถทำได้รวดเร็ว และมีความปลอดภัยสูงกว่าการทำผนังแบบก่ออิฐ หรือผนังคอนกรัตเสริมเหล็ก ผนังสำเร็จรูป เป็นผนังที่ได้รับการพัฒนา (มีต่อ)

และนำมาใช้กับงานอาคารสูงมากขึ้นตามลำดับ ซึ่งชิ้นงานเหล่านี้ สามารถผลิตได้ในโรงงาน ลักษณะของผนังถูกออกแบบให้สัมพันธ์กันระหว่าง ส่วนที่เป็นโครงสร้างและงานสถาปัตยกรรม มีหลายลักษณะเช่น ออกแบบเป็นผนังคอนกรีตเสริมเหล็ก ที่ทำผิวหน้าให้เสร็จเรียบร้อย (มีต่อ)

โดยการปูกระเบื้องตามสีและขนาดที่กำหนดไว้ หรืออาจทำเป็นผผวผนังล้างหรือหินขัด เป็นต้น ส่วนผนังที่มีการติตตั้งวางกรอบและบานประตูหน้าต่าง เช่น ไม้อลูมิเนียมและกระจก ก็เป็นส่วนประกอบ ติดตั้งไว้กับผนังให้เสร็จสมบรูณ์ แล้วจึงยกขึ้นไป ติดตั้ง(มีต่อ)

บนตัวอาคาร ปัจจุบันยังมีความพยายามที่จะพัฒนา การผลิตผนังสำเร็จรูปให้มีความสมบรณ์ยิ่งขึ้น โดยการฝังท่องานระบบ เช่น ระบบประปาไฟฟ้า เข้าไปให้เรียบร้อยก่อนนำไปติดตั้ง ทั้งนี้โดยวัตถุประสงค์หลัก คือการใช้เทคโนโลยีมาพัฒนาการทำงานก่อสร้าง (มีต่อ)

ให้มีความรวดเร็ว และลดอันตรายจากการทำงานในที่สูงให้น้อยลงได้มาก อย่างไรก็ตามการทำผนังด้วยวิธีดังกล่าวนี้ จำเป็นต้องอาศัยผู้มีประสบการณ์ มีความชำนาญเพียงพอในการวางแผน และบริหารงานก่อสร้าง มีความละเอียอถี่ถ้วนในการออกแบบ และควบคุมการผลิตชิ้นงาน ให้มีความถูกต้องสูง ปัญหาที่พบบ่อย สำหรับการใช้ ผนังสำเร็จรูปดังกล่าว อยู่ที่ความคลาดเคลื่อน ของระยะขนาด (มีต่อ)

ของชิ้นงาน ที่มีมากเกินกำหนด การเกิดความเสียหายขณะขนส่ง การยกติดตั้งและความเสีย เนื่องจากการทำงานประเภทอื่น หลังจากติดตั้งผนังแล้วเป็นต้น ซึ้งในทำให้เสียเวลา ในการแก้ไข ดั้งนั้นควร มีการเตรียมการควบคุม และตรวจสอบอย่างใกล้ชิด