โรงไฟฟ้าเอกชน : พัฒนาหรือปัญหา

จากอดีตจนถึงปัจจุบันนับตั้งแต่มีการค้นพบไฟฟ้า จนกระทั่งมีการพัฒนาและนำมาใช้ในกิจกรรมต่างๆ ไฟฟ้าได้มีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อวิถีความเป็นอยู่ของชีวิตปัจจุบัน การผลิตไฟฟ้านั้นพลังงานที่ใช้กันอยู่จะมีหลายประเภท เช่น เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ ถ่านหินหรือน้ำมัน พลังน้ำ พลังลม พลังชีวภาพ และพลังแสงอาทิตย์ พลังงานเหล่านี้จะไปหมุนเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเกิดเป็นกระแสไฟฟ้าขึ้นมา และก็จะจ่ายไฟเหล่านี้ไปตามสายไฟกระจายไปสู่บ้านเรือน ร้านค้า สำนักงาน โรงงานทั่วประเทศ (มีต่อ)

โดยผู้ที่รับผิดชอบในการผลิตกระแสไฟฟ้าให้คนไทยมาโดยตลอดคือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ในปัจจุบันนี้รัฐบาลได้เปิดโอกาสให้เอกชนเข้ามามีบทบาทในการผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ซึ่งจะเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนอิสระขนาดใหญ่และขนาดเล็ก ข้อดีของการเกิดโรงงานไฟฟ้าเอกชนมีดังนี้คือ 1.สามารถช่วยเสริมระบบการผลิตไฟฟ้าของประเทศให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น 2.เป็นแหล่งแรงงานที่สำคัญก่อให้เกิดการจ้างงานและเพิ่มรายได้แก่ประชาชนในท้องถิ่น (มีต่อ)

3.เกิดแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ในบริเวณใกล้เคียง ตลอดจนเป็นแหล่งเผยแพร่เทคโนโลยีและวิชาการสมัยใหม่ในด้านการผลิตไฟฟ้าให้แก่ประเทศ 4.ในฐานะที่โรงไฟฟ้าเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนจะได้ริเริ่มและสนับสนุนโครงการต่างๆ ที่ช่วยสร้างความเจริญให้แก่ชุมชนรวมทั้งระบบสาธารณูปโภคและสาธารณูปการ ซึ่งจะได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น 5.คนไทยจะได้ใช้ไฟฟ้าราคาถูกในอนาคตอันใกล้นี้ 6.รองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจอีกทั้งสร้างความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้า (มีต่อ)

อย่างไรก็ตามการดำเนินการของโรงงานผลิตไฟฟ้าเอกชนก็มีข้อเสีย คือหากไม่มีการควบคุมในขั้นตอนการผลิตไฟฟ้าอย่างถูกวิธีแล้วข้อเสียก็จะตามมา ฉะนั้นโรงงานไฟฟ้าจะต้องเตรียมมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันผลกระทบที่ตามมาภายหลัง โดยจะต้องยึดหลักออกแบบให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ รวมถึงมาตรฐานธนาคารโลกทั้งยังต้องได้รับความเห็นชอบจากการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากสำนักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม เมื่อได้มีการป้องกันอย่างระมัดระวังที่สุดแล้ว เมื่อนั้นคุณประโยชน์ในระยะยาวของการเกิดโรงไฟฟ้าก็จะเป็นคุณประโยชน์ยิ่งสำหรับการพัฒนาประเทศ