การวิจัยและประยุกต์ใช้ไคติน

Call Number: INDEX Material type: ArticleArticleSubject(s): SCI-TECH | พลาสติกในการแพทย์ | สารไคติน/ไคโตซาน In: /t พลาสติก /g ปีที่ 17 ฉบับที่ 4 (กรกฎาคม-สิงหาคม 2544) หน้า 29 - 31Summary: สารไคติน-ไคโตซาน จัดอยู่ในกลุ่มคาร์โบไฮเดรตผสมที่ประกอบด้วยอนุพันธ์ของน้ำตาลกลูโคสที่มีธาตุไนโตรเจนติดอยู่ด้วยทำให้มีคุณสมบัติที่โดดเด่นและหลากหลายมีประสิทธิภาพสูงในกิจกรรมชีวภาพ และยังย่อยสลายได้ตามธรรมชาติจึงเป็นสารที่มีความปลอดภัยในการใช้กับมนุษย์ สัตว์และสิ่งแวดล้อม ซึ่งสารตัวนี้เป็นพอลิเมอร์ที่มีประจุบวก แต่มีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถทำปฏิกิริยาเคมีเชิงซ้อนได้ด้วย ทำให้สารไคติน/ไคโตซาน มีลักษณะพิเศษในการนำมาใช้ดูดซับ (มีต่อ)Summary: และจับตะกอนต่างๆ ในสารละลายแล้วนำสารกลับมาใช้ใหม่ได้ โครงสร้างทางเคมีของสารไคติน/ไคโตซาน คล้ายคลึงกับเซลลูโลส คือ เป็นเส้นใยที่ยาว ไคตินที่เกิดในธรรมชาติมีโครงสร้างของผลึกที่แข็งแรงมีการจัดตัวของรูปแบบของผลึกเป็น 3ลักษณะคือ แอลฟ่าไคติน, บีต้าไคติน และแกมมาไคติน ส่วนไคตินที่เกิดขึ้นในเปลือกกุ้งและปู ส่วนใหญ่อยู่ในรูปแอลฟ่าไคติน ส่วนไคตินที่อยู่ในปลาหมึกพบว่า ส่วนใหญ่เป็นบีต้าไคตินในการจัดเรียงตัวของโครงสร้างตามธรรมชาติพบว่า (มีต่อ)Summary: แอลฟ่าไคติน มีคุณลักษณะของเสถียรภาพทางเคมีสูงกว่าบีต้าไคติน ดังนั้นจึงมีโอกาสที่บีต้าไคติน สามารถเปลี่ยนแปลงรูปแบบไปเป็นแอลฟ่าไคตินได้ในสารละลายของกรด เช่น กรดเกลือ เป็นต้น ส่วนแกมม่าไคตินเป็นโครงสร้างผสมระหว่างแอลฟ่ากับบีต้าไคตินนั่นเอง ไคตินเป็นพอลิเมอร์ที่เป็นสายยาวประกอบด้วยหน่วยย่อยที่เรียกว่า โมโนเมอร์ (Monomer) องค์ประกอบของหน่วยย่อยเป็นสารอนุพันธุ์ของน้ำตาลกลูโคสมีชื่อว่า N-acetyl glucosamine ไคตินเป็นสารละลายยากและไม่ค่อยละลาย ส่วนไคโตซานเป็นพอลิเมอร์ของหน่วยย่อยที่ชื่อว่า glucosamine นั่นเอง
Star ratings
    Average rating: 0.0 (0 votes)
No physical items for this record

สารไคติน-ไคโตซาน จัดอยู่ในกลุ่มคาร์โบไฮเดรตผสมที่ประกอบด้วยอนุพันธ์ของน้ำตาลกลูโคสที่มีธาตุไนโตรเจนติดอยู่ด้วยทำให้มีคุณสมบัติที่โดดเด่นและหลากหลายมีประสิทธิภาพสูงในกิจกรรมชีวภาพ และยังย่อยสลายได้ตามธรรมชาติจึงเป็นสารที่มีความปลอดภัยในการใช้กับมนุษย์ สัตว์และสิ่งแวดล้อม ซึ่งสารตัวนี้เป็นพอลิเมอร์ที่มีประจุบวก แต่มีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถทำปฏิกิริยาเคมีเชิงซ้อนได้ด้วย ทำให้สารไคติน/ไคโตซาน มีลักษณะพิเศษในการนำมาใช้ดูดซับ (มีต่อ)

และจับตะกอนต่างๆ ในสารละลายแล้วนำสารกลับมาใช้ใหม่ได้ โครงสร้างทางเคมีของสารไคติน/ไคโตซาน คล้ายคลึงกับเซลลูโลส คือ เป็นเส้นใยที่ยาว ไคตินที่เกิดในธรรมชาติมีโครงสร้างของผลึกที่แข็งแรงมีการจัดตัวของรูปแบบของผลึกเป็น 3ลักษณะคือ แอลฟ่าไคติน, บีต้าไคติน และแกมมาไคติน ส่วนไคตินที่เกิดขึ้นในเปลือกกุ้งและปู ส่วนใหญ่อยู่ในรูปแอลฟ่าไคติน ส่วนไคตินที่อยู่ในปลาหมึกพบว่า ส่วนใหญ่เป็นบีต้าไคตินในการจัดเรียงตัวของโครงสร้างตามธรรมชาติพบว่า (มีต่อ)

แอลฟ่าไคติน มีคุณลักษณะของเสถียรภาพทางเคมีสูงกว่าบีต้าไคติน ดังนั้นจึงมีโอกาสที่บีต้าไคติน สามารถเปลี่ยนแปลงรูปแบบไปเป็นแอลฟ่าไคตินได้ในสารละลายของกรด เช่น กรดเกลือ เป็นต้น ส่วนแกมม่าไคตินเป็นโครงสร้างผสมระหว่างแอลฟ่ากับบีต้าไคตินนั่นเอง ไคตินเป็นพอลิเมอร์ที่เป็นสายยาวประกอบด้วยหน่วยย่อยที่เรียกว่า โมโนเมอร์ (Monomer) องค์ประกอบของหน่วยย่อยเป็นสารอนุพันธุ์ของน้ำตาลกลูโคสมีชื่อว่า N-acetyl glucosamine ไคตินเป็นสารละลายยากและไม่ค่อยละลาย ส่วนไคโตซานเป็นพอลิเมอร์ของหน่วยย่อยที่ชื่อว่า glucosamine นั่นเอง