ว่าด้วยเรื่องสิ่งแวดล้อมกับความคาดหวัง / นิติกานต์ สุกิน

เครื่องกำจัดก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์หรือเอฟจีดี (Flue Gas Desulferization : FGD) เป็นทางออกของปัญหาที่การไฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยนำมาติดตั้งเพื่อลดปริมาณก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ที่ปล่อยสู่บรรยากาศซึ่งเกิดจากกระบวนการนำถ่านหินลิกไนต์มาเป็นวัตถุดิบผลิตกระแสไฟฟ้า 25 ก.พ. 2543 เครื่องกำจัดก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์โรงไฟฟ้าแม่เมาะเครื่องที่ 4-5 ซึ่งเป็นชุดสุดท้ายเปิดเดินเครื่องอย่างเป็นทางการด้วยความเชื่อมั่น(ของ กฟผ.) (มีต่อ)

ว่าจะทำให้การผลิตของโรงไฟฟ้าแม่เมาะไม่เกิดผลกระทบต่อต่อสิ่งแวดล้อม เครื่องกำจัดก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์เป็นอุปกรณ์ที่ใช้แยกก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ออกจากก๊าซได้จากการเผาไหม้ของถ่านลิกไนต์ โดยระบบที่ใช้เป็นระบบเปียก (Wet Limestone Process) ซึ่งมีประสิทธิภาพในการจับก๊าซได้ถึงร้อยละ94 ปัจจุบันโรงไฟฟ้าแม่เมาะเป็นโรงไฟฟ้าหลักในการผลิตกระแสไฟฟ้าส่งให้ผู้ใช้ในภาคเหนือจำนวนร้อยละ 50ของกำลังผลิต ที่เหลือร้อยละ 30และ20 ส่งให้ผู้ใช้ในภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตามลำดับ (มีต่อ)

นอกเหนือจากปัญหาก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์แล้ว ฝุ่นเป็นอีกปัญหาหนึ่งจากโรงไฟฟ้าถ่านหินลิกไนต์แห่งนี้ ซึ่ง กฟผ.ก็ได้ติดตั้งกระบอกเก็บฝุ่นและดักจับก๊าซพิษหลายแห่งเพื่อวิเคราะห์หาฝุ่นหนักซัลเฟอรืไดออกไซด์ ไนโตรเจนออกไซด์และฝุ่นละอองในอากาศ ปกติโรงไฟฟ้าจะมีอายุการใช้งานประมาณ 25-30ปี สำหรับอนาคตของโรงไฟฟ้าแม่เมาะนั้นหากหมดอายุการใช้งานคือ ถูกรื้อถอน ถึงแม้ว่าจะมีปริมาณถ่านหินลิกไนต์มากพอหากก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ขึ้นก็ตาม (มีต่อ)

เพราะถ่านหินลิกไนต์ที่เหมืองแม่เมาะมีคุณภาพต่ำจึงมีปริมาณกำมะถันสูง กอปรกับปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าลดลงตามสภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ และปริมาณพลังงานไฟฟ้าสำรองมีมากพอเพียงกับปริมาณความต้องการใช้ด้วย หากพิจารณาอย่างจริงจังแล้วบ้านเราอาจไม่ต้องเร่งหาแหล่งพลังงานเพิ่มเติมเพื่อสำรองไว้ใช้ระยะยาวก็เป็นได้ ถ้าทุกคนจะช่วยกันประหยัดพลังงานและใช้อย่างคุ้มค่าที่สุด เพราะหากยังใช้พลังงานอย่างฟุ่มเฟือยแล้วถึงแม้จะสร้างโรงไฟฟ้ากำลังผลิตมหาศาลเพิ่มเติมอีกมากแค่ไหนก็คงไม่สามารถตอบสนองความต้องการที่ไม่มีวันสิ้นสุดของผู้คนได้เพียงพอ