เอกองค์ทรงพัฒนา "จุลกฐินสามัคคีเทิดพระเกียรติ" / ชาติบุตร บุณยะจิตติ.

กฐินทานมีเวลาในการจัด 1 เดือน หลังจากวันออกพรรษา ถ้าเกิน 1เดือนจากกนี้ไปไม่จัดเป็นกฐิน ตามคตินิยมแต่โบราณ กฐินทานถือเป็นประเพณีสำคัญประจำปีเป็นผลสืบเนื่องมาจากการบวช 3 เดือน คือ ผู้บวชทดแทนบุญคุณพ่อแม่จะต้องให้ครบ 3 เดือน แล้วรับกฐินก่อนจึงลาสิกขา มิฉะนั้นถือว่ายังไม่ได้รับอานิสงฆ์จากการบวชเต็มที่ ส่วนจุลกฐินมักพูดกันเสมอว่า มีความยุ่งยากในการเตรียมความพร้อม ความสนุกสนานในการช่วยกันทำงาน ความร่วมมือของคนในหมู่บ้าน (มีต่อ)

ประเพณีท้องถิ่นบางแห่งเรียกว่า กฐินแล่น หมายถึง รีบด่วน ปกติจะปฏิบัติกับวัดที่ไม่มีใครจองกฐิน บังเอิญมีผู้ทราบเข้าเกิดศรัทธาอย่างแรงกล้า จึงชักชวนกันเตรียมผ้าถวายพระ เนื่องจากสมัยโบราณผ้าหายากไม่สามารถซื้อหาได้เหมือนปัจจุบัน จึงต้องเริ่มทำกันตั้งแต่การเก็บฝ้าย (คนโบราณทุกครัวเรือนปลูกฝ้ายกันอยู่แล้ว เพราะต้องทอผ้าใช้เองในหน้าแล้ง) แประสภาพจากฝ้ายมาเป็นเส้นด้าย แล้วเริ่มทอให้เป็นผืนผ้า นำมาตัดเย็บย้อมถวายพระสงฆ์ในวันนั้น (มีต่อ)

งานจุลกฐินจะเป็นงานใหญ่ งานหนักที่ต้องมีความพากเพียร ความร่วมมือร่วมใจร่วมแรงกายอย่างเต็มกำลัง แล้วก็ตามยังต้องอาศัยแรงศรัทธาอันเป็นจุดสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้เชื่อกันมาแต่โบราณว่า จุลกฐินมีผลานิสงส์โอฬารยิ่งกว่าทานใดๆ