สร้างสรรค์เมือง "ไข่นา" ทางเลือกของผู้บริโภคไข่ / นุชรินทร์

By: นุชรินทร์Call Number: INDEX Material type: ArticleArticleSubject(s): SCI-TECH | ไข่นา In: โลกใบใหม่ ปีที่ 10 ฉบับที่ 122 (พฤศจิกายน 2542) หน้า 41-42Summary: ไข่ที่นิยมนำมาปรุงอาหารกันส่วนมาก ก็คือ ไข่เป็ดและไข่ไก่ เมื่อสัก 20 - 30ปี มาก่อน ไข่ที่นิยมกันมากคือไข่เป็ด ไข่ไก่ก็พอมีอยู่บ้างแต่น้อยและมีราคาแพงกว่าไข่เป็ด จนมาเมื่อมีฟาร์มไก่เกิดขึ้น ทั้งเนื้อไก่และไข่ไก่ราคาถูกลงเพราะปริมาณการผลิตมาก ความนิยมของคนจึงนิยมไข่ไก่มากขึ้น ไข่เป็ดซึ่งเป็นผลผลิตของชาวบ้านเพื่อนำมาประกอบอาหารก็พลอยถูกลดความต้องการไปด้วยเช่นกัน คงมีเหลือแต่ความต้องการเอาไปทำเป็นไข่เค็ม ขนมหวาน ราคาไข่เป็ดดูเหมือนจะสูงกว่าไข่ไก่ (มีต่อ)Summary: ผู้บริโภคถูกชักจูงให้กินไข่ไก่ด้วยราคาแพง และค่านิยมว่าไข่ไก่มีเนื้อนุ่มกว่าเมื่อนำมาทำอาหาร การเลี้ยงไก่เป็นอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขัน ส่งเสริมให้เกษตรเลี้ยงกันมากขึ้น และมีผลผลิตออกสู่ตลาดมากมาย ผู้บริโภคไม่รู้เลยว่าไก่ไข่และไก่เนื้อที่ซื้อนั้นเป็นผลิตผลของกระบวนการเร่งรัดที่ผิดธรรมชาติ ไก่ถูกยัดเยียดให้กินอาหารสำเร็จรูป ถูกป้อนปรนเหมือนเครื่องจักรให้เป็นไปตามที่มนุษย์ต้องการ ไข่นาเป็นผลผลิตของเป็ดที่ถูกเลี้ยงในนาตามธรรมชาติ (มีต่อ)Summary: ด้วยวิถีชีวิตเช่นนี้ ไข่ของเป็ดเหล่านี้จึงมีสีแดงจัดและสารพิษตกค้างน้อยจนถึงไม่มีเลย อีกทั้งเป็นการแก้ปัญหาเกี่ยวกับหอยเชอรี่ที่เป็นศัตรูชอบกินต้นข้าว ชาวบ้านยังหาวิธีกำจัดไม่ได้ นอกจากใช้ยาฆ่า ซึ่งมีผลทำให้น้ำในนาเน่าเสียแถมยังตายไม่หมดอีกด้วย การได้ฝูงเป็ดขนาดใหญ่ถึงพันกว่าตัวมาปราบหอยเชอรี่จึงแทบไม่ต้องเสียอะไรเลย จะใช้เวลาเลี้ยงเป็ดนาประมาณ 5-6เดือน และจะให้ไข่จนมีอายุถึง 3-4 ปีเลี้ยงเป็ดพันกว่าตัว (มีต่อ)Summary: จะได้ผลผลิตตั้งแต่ 800-900ฟอง และจะไข่ทุกวัน และวาระสุดท้ายของเป็ดเหล่านี้คือการเป็นเป็ดเนื้อสำหรับเอาไปทำเป็ดพะโล้ ในราคาตัวละเกือบร้อยบาท ราคาไข่ที่ซื้อจากนาโดยตรงฟองละ 1บาท ถึง 1.25บาท ไข่นาเป็นผลผลิตจากภูมิปัญญาชาวบ้าน เพราะฉะนั้น ไข่นา จึงเป็นทางเลือกของผู้บริโภคไข่ในวันนี้
Star ratings
    Average rating: 0.0 (0 votes)
No physical items for this record

ไข่ที่นิยมนำมาปรุงอาหารกันส่วนมาก ก็คือ ไข่เป็ดและไข่ไก่ เมื่อสัก 20 - 30ปี มาก่อน ไข่ที่นิยมกันมากคือไข่เป็ด ไข่ไก่ก็พอมีอยู่บ้างแต่น้อยและมีราคาแพงกว่าไข่เป็ด จนมาเมื่อมีฟาร์มไก่เกิดขึ้น ทั้งเนื้อไก่และไข่ไก่ราคาถูกลงเพราะปริมาณการผลิตมาก ความนิยมของคนจึงนิยมไข่ไก่มากขึ้น ไข่เป็ดซึ่งเป็นผลผลิตของชาวบ้านเพื่อนำมาประกอบอาหารก็พลอยถูกลดความต้องการไปด้วยเช่นกัน คงมีเหลือแต่ความต้องการเอาไปทำเป็นไข่เค็ม ขนมหวาน ราคาไข่เป็ดดูเหมือนจะสูงกว่าไข่ไก่ (มีต่อ)

ผู้บริโภคถูกชักจูงให้กินไข่ไก่ด้วยราคาแพง และค่านิยมว่าไข่ไก่มีเนื้อนุ่มกว่าเมื่อนำมาทำอาหาร การเลี้ยงไก่เป็นอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขัน ส่งเสริมให้เกษตรเลี้ยงกันมากขึ้น และมีผลผลิตออกสู่ตลาดมากมาย ผู้บริโภคไม่รู้เลยว่าไก่ไข่และไก่เนื้อที่ซื้อนั้นเป็นผลิตผลของกระบวนการเร่งรัดที่ผิดธรรมชาติ ไก่ถูกยัดเยียดให้กินอาหารสำเร็จรูป ถูกป้อนปรนเหมือนเครื่องจักรให้เป็นไปตามที่มนุษย์ต้องการ ไข่นาเป็นผลผลิตของเป็ดที่ถูกเลี้ยงในนาตามธรรมชาติ (มีต่อ)

ด้วยวิถีชีวิตเช่นนี้ ไข่ของเป็ดเหล่านี้จึงมีสีแดงจัดและสารพิษตกค้างน้อยจนถึงไม่มีเลย อีกทั้งเป็นการแก้ปัญหาเกี่ยวกับหอยเชอรี่ที่เป็นศัตรูชอบกินต้นข้าว ชาวบ้านยังหาวิธีกำจัดไม่ได้ นอกจากใช้ยาฆ่า ซึ่งมีผลทำให้น้ำในนาเน่าเสียแถมยังตายไม่หมดอีกด้วย การได้ฝูงเป็ดขนาดใหญ่ถึงพันกว่าตัวมาปราบหอยเชอรี่จึงแทบไม่ต้องเสียอะไรเลย จะใช้เวลาเลี้ยงเป็ดนาประมาณ 5-6เดือน และจะให้ไข่จนมีอายุถึง 3-4 ปีเลี้ยงเป็ดพันกว่าตัว (มีต่อ)

จะได้ผลผลิตตั้งแต่ 800-900ฟอง และจะไข่ทุกวัน และวาระสุดท้ายของเป็ดเหล่านี้คือการเป็นเป็ดเนื้อสำหรับเอาไปทำเป็ดพะโล้ ในราคาตัวละเกือบร้อยบาท ราคาไข่ที่ซื้อจากนาโดยตรงฟองละ 1บาท ถึง 1.25บาท ไข่นาเป็นผลผลิตจากภูมิปัญญาชาวบ้าน เพราะฉะนั้น ไข่นา จึงเป็นทางเลือกของผู้บริโภคไข่ในวันนี้