ความไม่พร้อม ของไทยในกรณี "GMOs" / เดือนเพ็ญ ลิ้มศรีตระกูล

By: เดือนเพ็ญ ลิ้มศรีตระกูลCall Number: INDEX Material type: ArticleArticleSubject(s): SCI-TECH | สารพันธุกรรม In: โลกสีเขียว ปีที่ 8 ฉบับที่ 4 (กันยายน-ตุลาคม 2542) หน้า 37 - 45Summary: ความฝันของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ต้องการให้ประเทศไทยเป็นผู้นำการส่งออกผลิตภัณฑ์เกษตรธรรมชาติ (Organic Food) ดูเหมือนว่าจะล้มเหลวเสียตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มต้น เพราะเอาเข้าจริงสังคมไทยกลับไม่สามารถประกาศตัวว่าเป็นเขตปลอดสินค้า GMO (Genetically Modified Organism : สิ่งมีชีวิตที่มีการตัดต่อสารพันธุกรรม) (มีต่อ)Summary: ได้อีกต่อไป หลังจากที่เครือข่ายสิทธิภูมิปัญญาไทยพบหลักฐานแน่ชัดว่า มีฝ้ายตัดต่อสารพันธุกรรมหลุดรอดไปสู่พื้นที่เกษตร ทั้งๆ ที่กระทรวงเกษตรฯเองยังประกาศอยู่จนทุกวันนี้ว่า ไม่มีนโบายอนุญาตให้ปลูกพืชตัดต่อสารพันธุกรรม (Transgenic plant or genetically modified plant) เพื่อการพาณิชย์ ฝ้ายตัดต่อสารพันธุกรรม (มีต่อ)Summary: ที่หลุดรอดออกไปสู่พื้นที่เกษตรทั้งๆ ที่ยังเป็นพืชต้องห้าม แสดงให้เห็นถึงความไม่พร้อมในการรับมือ GMOs ของประเทศไทยอย่างมีนัยสำคัญนั่นคือ ขาดมาตรการสำหรับควบคุม ตรวจสอบและติดตามสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ที่กำลังหลั่งไหลเข้ามาสู่สังคมไทยในรูปแบบที่หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของอาหารตัดต่อสาร (มีต่อ)Summary: พันธุกรรม (Genetically Modified Food) ซึ่งเกี่ยวข้องกับคนไทยทุกคนในฐานะผู้บริโภค ก็ยังไม่มีการกำหนดมาตรการใดๆ ออกมารองรับ ผู้บริโภคจึงไม่สามารถรู้ได้เลยว่าอาหารที่เขารับประทานนั้นมีส่วนของ GMOs ปนเปื้อนอยู่หรือไม่เช่นเดียวกับผู้ส่งออก ซึ่งเริ่มเผชิญปัญหาในการส่งผลิตภัณฑ์อาหารไปยังบางประเทศใน (มีต่อ)Summary: สหภาพยุโรป ( อียู ) เพราะปรากฎว่าสินค้าออกของไทยบางราบการ มีส่วนผสมของ GMOs ด้วยเหตุนี้จึงน่าจะถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลไทยควรเอาจริงเอาจัง ในการวางมาตรการเพื่อรับมือ GMOs ในทุกๆด้าน (มีต่อ)Summary: ในทุกๆด้าน โดยคำนึง ถึง ผลประโยชน์ ของ คนไทย เป็นสำคัญ เพราะ ถึงวันนี้ คงไม่ สามารถ ปฏิเสธ ได้แล้ว ว่า สังคมไทย เป็นสังคม ปลอด GMOs
Star ratings
    Average rating: 0.0 (0 votes)
No physical items for this record

ความฝันของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ต้องการให้ประเทศไทยเป็นผู้นำการส่งออกผลิตภัณฑ์เกษตรธรรมชาติ (Organic Food) ดูเหมือนว่าจะล้มเหลวเสียตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มต้น เพราะเอาเข้าจริงสังคมไทยกลับไม่สามารถประกาศตัวว่าเป็นเขตปลอดสินค้า GMO (Genetically Modified Organism : สิ่งมีชีวิตที่มีการตัดต่อสารพันธุกรรม) (มีต่อ)

ได้อีกต่อไป หลังจากที่เครือข่ายสิทธิภูมิปัญญาไทยพบหลักฐานแน่ชัดว่า มีฝ้ายตัดต่อสารพันธุกรรมหลุดรอดไปสู่พื้นที่เกษตร ทั้งๆ ที่กระทรวงเกษตรฯเองยังประกาศอยู่จนทุกวันนี้ว่า ไม่มีนโบายอนุญาตให้ปลูกพืชตัดต่อสารพันธุกรรม (Transgenic plant or genetically modified plant) เพื่อการพาณิชย์ ฝ้ายตัดต่อสารพันธุกรรม (มีต่อ)

ที่หลุดรอดออกไปสู่พื้นที่เกษตรทั้งๆ ที่ยังเป็นพืชต้องห้าม แสดงให้เห็นถึงความไม่พร้อมในการรับมือ GMOs ของประเทศไทยอย่างมีนัยสำคัญนั่นคือ ขาดมาตรการสำหรับควบคุม ตรวจสอบและติดตามสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ที่กำลังหลั่งไหลเข้ามาสู่สังคมไทยในรูปแบบที่หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของอาหารตัดต่อสาร (มีต่อ)

พันธุกรรม (Genetically Modified Food) ซึ่งเกี่ยวข้องกับคนไทยทุกคนในฐานะผู้บริโภค ก็ยังไม่มีการกำหนดมาตรการใดๆ ออกมารองรับ ผู้บริโภคจึงไม่สามารถรู้ได้เลยว่าอาหารที่เขารับประทานนั้นมีส่วนของ GMOs ปนเปื้อนอยู่หรือไม่เช่นเดียวกับผู้ส่งออก ซึ่งเริ่มเผชิญปัญหาในการส่งผลิตภัณฑ์อาหารไปยังบางประเทศใน (มีต่อ)

สหภาพยุโรป ( อียู ) เพราะปรากฎว่าสินค้าออกของไทยบางราบการ มีส่วนผสมของ GMOs ด้วยเหตุนี้จึงน่าจะถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลไทยควรเอาจริงเอาจัง ในการวางมาตรการเพื่อรับมือ GMOs ในทุกๆด้าน (มีต่อ)

ในทุกๆด้าน โดยคำนึง ถึง ผลประโยชน์ ของ คนไทย เป็นสำคัญ เพราะ ถึงวันนี้ คงไม่ สามารถ ปฏิเสธ ได้แล้ว ว่า สังคมไทย เป็นสังคม ปลอด GMOs