ปรีชา ยุพาพิน.

การสื่อสารเครือข่ายความเร็วสูงด้วยอุปกรณ์นำแสง / ปรีชา ยุพาพิน

การผลิตใยแก้วนำแสงคือ ให้ความร้อนที่ปลายแท่งพรีฟอร์มแล้วดึงปลายด้านเรียบด้วยความเร็วในการดึงอยู่ในช่วง 1เมตรต่อวินาที ปกป้องโดยหุ้มด้วยสารพอลิเมอร์แล้วทำการม้วนเก็บใยแก้วนำแสงตามลำดับ (มีต่อ) ในด้านการสื่อสารนั้นเส้นใยแก้วนำแสงมาตรฐานชนิดสเตปอินเดก ซึ่งแกนทำจากเจอร์มาเนียม ผสมซิลิกาและแคลดทำจากซิลิกาบริสุทธิ์ เส้นใยแก้วนำแสงชนิดเจอมาโนซิลิเกตนี้แสดงช่วงการดูดกลืนต่ำๆ ได้ 2ช่วงคือ ที่1.3 และ1.55 ไมครอน เมื่อได้รับแสง UV ที่มีความยาวคลื่นระหว่าง240 และ260 นาโนเมตร จะเกิดการ (มีต่อ) เปลี่ยนแปลงดัชนีหักเหแบบถาวร ใช้ความไวต่อแสงเป็นตัวกำหนดการสร้างเส้นใยแก้วนำแสง เช่น การเขียนเกรตติงลงบนเส้นใยแก้วนำแสงโดยใช้การมอดูเลตที่ลำแสง UV การบรรจุไฮโดรเจนลงในเส้นใยแก้วนำแสงที่ความดันสูงประมาณ 200บรรยากาศอุณหภูมิห้อง ทำให้เกิดกระบวนการแตกตัวขึ้นทำให้เส้นใยแก้วนำแสงมีความไวต่อแสง (มีต่อ) เพิ่มขึ้น เป็นการลดความเข้มของแสง UV และเพิ่มการเปลี่ยนแปลงดัชนีหักเหในใยแก้วนำแสง ไฮโดรเจนจะมีผลต่อการสร้างรูปแบบที่ไม่สมบูรณ์ขึ้นในแก้วเจอมาเนียมนั่นคือ การเปลี่ยนแปลงดัชนีหักเหที่ได้มากกว่า 10-2 ซึ่งมากกว่าผลต่างดัชนีหักเหของแกนและแคลดในเส้นใยแก้วนำแสงแต่ละชนิด เทคนิคการบรรจุไฮโดรเจนนี้ (มีต่อ) ทำให้ใยแก้วนำแสงเจอร์มาเนียมมีความไวต่อแสงและดัชนีหักเหเพิ่มขึ้นในลักษณะที่ไม่สามารถควบคุมได้


SCI-TECH.
การสื่อสาร.