เดอะบีชที่อ่าวมาหยาราคาสี่ล้านถูกแบบนี้มีอีกไหม

อุทยานแห่งชาติ ไหนที่ ททท. ทำการส่งเสริม การขายเป็นพิเศษ จะมีปัญหา เสื่อมโทรม ในเวลาอันรวดเร็ว ตอนนี้กรมป่าไม้ จึงวางใจให้ทเวนตี้ เซ็นจูรี่ ฟ็อกซ์มาช่วย โปรโมต อ่าวมาหยาให้ดัง กระหึ่มไปทั่วโลก แถมได้พระเอก ลีโอ นาร์โด ดิ คาปริโอ เป็นฟรีเซนเตอร์ให้ฟรีๆ ไม่ต้องควัก กระเป๋าจ่าย สักสตางค์ เพียงแค่ยอมให้ กองถ่ายหนัง "เดอะบีช" เข้ามาใช้อ่าวมาหยาเป็นสถานที่ถ่ายทำ แค่ 12 วันเท่านั้น (มีต่อ)

และได้มีการเปลี่ยนแปลง ด้านระบบนิเวศ ของชายหาดธรรมชาติ เดิมชนิดไม่เหลือเค้า ด้วยรถแบ็กโฮ โดยกระบวน การเปลี่ยนแปลง จะเริ่มต้น จากการกำจัดพืช คลุมดิน ไม่ว่าจะเป็นต้นหว้า ต้นรักทะเล ต้นเตย สับปะรดทะเล พลับพลึง และหญ้า อีกหลายชนิดออกไป จากนั้น ก็ปรับไถพื้นที่ ให้กว้างขึ้น เพื่อนำ ต้นมะพร้าว ประมาณ 100 ต้น และพืชพรรณ ต่างถิ่น อีกหลายชนิดมา ปลูกแทน แค่นี้กระบวน การเนรมิต อ่าวมาหยา ของประเทศไทย ให้กลายเป็นหาดสวรรค์ ตามบทภาพยนตร์ (มีต่อ)

บริษัททเวนตี้ เซ็นจูรี่ ฟ็อกซ์ จำกัด คาดว่าจะโปรโมท ประเทศไทย ด้วยงบประมาณ การสร้างภาพยนตร์ เรื่องนี้ถึง 40 ล้านดอลลาร์ โดยกำหนดระยะเวลา เตรียมงาน ถ่ายทำตั้งแต่ เดือนสิงหาคม 2541 ถึง มกราคม 2542 และเริ่มถ่ายทำ ตั้งแต่เดือน มกราคม ถึงเมษายน 2542 โดยใช้สถานที่ ถ่ายทำใน 4 จังหวัด คือ ภูเก็ต พังงาน กระบี่ และกรุงเทพมหานคร การเปลี่ยนแปลง สภาพอ่าวมาหยาครั้งนี้ (มีต่อ)

ก่อให้เกิด เสียงคัดค้าน จากกลุ่ม นักอนุรักษ์ เป็นอย่างมาก โดยกลุ่ม ผู้คัดค้าน เห็นว่า การกระทำ ดังกล่าว เป็นการละเมิด พระราชบัญญัติ อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 มาตรา 16 ที่ระบุ ไว้ว่า ห้ามมิให้มีการ กระทำใดๆ รวมถึงการเก็บมา เอาออกไป อันก่อให้เกิด อันตราย หรือเสื่อมสภาพ ของสิ่งแวดล้อม ทางธรรมชาติ (มีต่อ)

ซึ่งเจตนารมณ์ สำคัญในการออก พระราชบัญญัติฉบับนี้ เป็นไปเพื่อ มุ่งคุ้มครองรักษา ทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ เช่น พันธุ์ไม้ ของป่าและ สัตว์ป่า ตลอดจนทิวทัศน์ ป่าและภูเขา ให้คงอยู่ในสภาพธรรมชาติ มิให้ถูกทำลาย หรือเปลี่ยนแปลงไป เพื่ออำนวยประโยชน์ ทั้งทางตรง และทางอ้อม แก่รัฐและประชาชนสืบไป