สื่อสัมพันธ์ด้วยพลาสติก / มรกต งามภักดี

เมื่ออดัมกับอีฟ หรือจะเป็นใครก็ตามถือกำเนิดขึ้นเป็นมนุษย์คู่แรกบนโลกใบนี้ เราไม่แน่ใจว่าเขาทั้งสองพูดคุยกันด้วยคำพูดใด แต่ที่แน่ๆ ภาษามือ ภาษาตา และภาษากายแบบอื่นๆ ย่อมเป็นส่วนหนึ่งของจุดเริ่มต้นในการดำรงเผ่าพันธุ์ แน่นอนว่าการสื่อสารย่อมเกิดขึ้นเมื่อเริ่มมีมนุษย์คนที่สองแต่เราก็ไม่แน่ใจ (มีต่อ)

นักว่าภาษาพูด ซึ่งเป็นการสื่อสารขั้นแรกเริ่มต้นขึ้นได้อย่างไร มีเพียงข้อสันนิษฐานของนักปรัชญาชาวตะวันตกอย่าง เดโนคริสท์, จอห์น ล็อก และอดัม สมิธ ที่เชื่อว่าคำพูดเกิดจากการประชุมของมนุษย์และอาศัยช่วงเวลาในการพัฒนานานมากจนกลายเป็นภาษาก่อนการพูด หรือชาวอียิปต์โบราณเชื่อว่า ภาษานกเป็นต้นแบบของ (มีต่อ)

ภาษาพูด ทฤษฎีเบาเวา (Bow-Wow) เชื่อว่าเสียงเห่าของผู้มีเล็บงาม (สุนัข) เป็นต้นกำเนิดของภาษาพูด รวมถึงทฤษฎีอื่นๆ อีกมากมาย ต่อมาเมื่อสังคมมนุษย์ใหญ่ขึ้น ซับซ้อนขึ้น จึงได้มีการประดิษฐ์ตัวอักษรขึ้นใช้ ชาติที่ประดิษฐ์ได้เป็นชาติแรกคือ จีน ส่วนไทยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ทรงประดิษฐ์อักษรไทยขึ้นใช้สำเร็จใน (มีต่อ)

ปีพ.ศ.1826 เรียกกันว่า"ลายสือไท"และก็ได้เปลี่ยนรูปแบบและวิธีการเขียนมาเรื่อยๆ จนเป็นตัวอักษรที่คนไทยใช้กันอยู่ในตอนนี้ เมื่อมนุษย์เรียนรู้มากขึ้นกฎเกณฑ์ กฎหมาย และวิทยาการต่างๆ ทำให้การเขียนเพื่อถ่ายทอดและเผยแพร่ความรู้ต้องใช้เวลามากขึ้น โจฮัน กูเต็นเบอร์ก จึงประดิษฐ์แท่นพิมพ์ขึ้นเป็นครั้งแรก (มีต่อ)

ช่วงแรกการพิมพ์ยังคงเป็นการพิมพ์จากแม่พิมพ์ (Block) ต่อมาได้พัฒนาเป็นแท่นพิมพ์ที่ถอดแบบตัวอักษรเป็นตัวๆได้ (Movable Type) การพิมพ์ด้วยระบบอัตโนมัติและเครื่องพิมพ์ที่ใช้เครื่องส่งไอน้ำในปีพ.ศ.2376 หรือค.ศ.1833 โลกของผู้พิการทางสายตาก็สว่างขึ้นเมื่อนายหลุยส์ เบรลล์ ได้ประดิษฐ์อักษรสำหรับ (มีต่อ)

คนตาบอดได้สำเร็จ และได้ประดิษฐ์เครื่องโทรศัพท์ขึ้นสำเร็จเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ยังได้มีการค้นพบคลื่นกระแสไฟฟ้าสลับที่ใช้ในการส่งสัญญาณวิทยุของนาย เฮนริช เฮิร์ตซ์ และทฤษฎีการถ่ายทอดเสียงโดยอาศัยคลื่นไฟฟ้าแม่เหล็กผ่านบรรยากาศโดยไม่ต้องใช้สายโลหะขณะที่วงการวิทยุพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว วงการภาพยนต์โดย (มีต่อ)

นายโทมัส เอดิสัน (Thomas A. Dison) ได้ประดิษฐ์กล้องถ่ายภาพยนต์ด้วยการใช้ฟิล์มเซลลูลอยด์และกล้องถ่ายภาพได้สำเร็จ สื่อชนิดใหม่คือ "ภาพยนต์" จึงได้ถือกำเนิดขึ้นมา เมื่อการส่งผ่านข้อมูลข่าวสารระหว่างญาติมิตรหรือ บรรดาผู้อยู่ห่างไกลมีมากขึ้น การไปรษณีย์จึงเริ่มต้นขึ้น รัฐบาลอังกฤษโดยการนำของ (มีต่อ)

เซอร์ โวร์แนล ฮีล เสนอให้รัฐบาลกำหนดให้ผู้ส่งซื้อแสตมป์ดวงละ 1เพนน์ ติดที่มุมซอง จึงถือเป็นระบบแสตมป์ประเทศแรกในโลก ในวงการของพลาสติกสื่อสารนั้นเข้ามามีบทบาทแทนการเป็นสื่อกลางส่งผ่านข่าวสารไปแล้วชิ้นส่วนอุปกรณ์สื่อสารและปลอกหุ้มสายเคเบิล (มีต่อ)

สื่อสาร ทำจากโพลีเอทธิลีน คุณสมบัติโปร่งใสและเหนียว ขึ้นรูปได้ง่าย แผ่นป้ายจราจร ป้ายที่ใช้งานกลางแจ้งและเลนส์แว่นตา ใช้ Polemethacrylic Resin (PMMA) เนื่องจากเป็นเรซิ่นที่โปร่งใส ผิวเรียบ แวววาว เติมสีย้อมได้ ขึ้นรูปได้ง่าย ทนสภาพดินฟ้าอากาศ ทนน้ำและสารเคมีได้ดีเยี่ยม ตู้โทรทัศน์ทำจาก ABS (มีต่อ)

(Acrylonitrile-Butadiene-Styrene) โทรศัพท์ กล้องถ่ายรูป ทำจาก SAN (Styrol-Aerelonitrile) พัฒนาการที่ไม่รู้จบนี้ อีกไม่กี่ปีข้างหน้าระบบการถ่ายทอดเสียงด้วยลวดทองแดงในโทรศัพท์จะเปลี่ยนเป็นเส้นใยโปร่งแสง (Fiber Obtic Cable) ที่ทำให้คู่สนทนามีโอกาสเห็นสีหน้าและแววตากันได้ 15ปีถัดจากนี้ก็จะมีโทรทัศน์สามมิติ (มีต่อ)

ลายพิมพ์มือแบบดีเอ็นเอ ไม่นานนักธนาคารจะเป็นศูนย์กลางข้อมูลและจัดการการใช้จ่ายเงินโดยผ่านบัตรพลาสติก ทั้งการเติมน้ำมัน สั่งของทางไปรษณีย์ การเดินทาง ร้านอาหาร ค่ารักษาพยาบาล กล่าวถึงระบบการสื่อสารในอนาคตกับการพัฒนาประเทศไทย จะมีการพัฒนาระบบคู่สายโทรศัพท์ 40เลขหมายต่อประชากร 100คน (มีต่อ)

นอกจากนี้ยังจะพัฒนาระบบสารสนเทศของภาครัฐเพื่อบริการข่าวสารต่อประชาชนที่มีประสิทธิภาพ บริการการศึกษาทางไกลให้โรงเรียนของรัฐมีเครื่องคอมพิวเตอร์อย่างน้อย 1เครื่องต่อนักเรียน 80คน ส่วนกรุงเทพฯ รัฐจะจัดการปัญหาการจราจรด้วยการสื่อสารผ่านดาวเทียมให้มี (มีต่อ)

ระบบระเบียบมากขึ้น หน่วยงานบางแห่งของรัฐจะเริ่มให้บุคคลากรทำงานที่บ้าน (Tele-Working) เพื่อลดปัญหาการจราจร จะเป็นไปได้หรือไม่ ก็ต้องคอยดูกันต่อไป