สารสกัดจากต้น แป๊ะก๊วย รักษาโรคอัลไซเมอร์

Call Number: INDEX Material type: ArticleArticleSubject(s): SCI-TECH | สมุนไพร | โรคอัลไซเมอร์ In: เทคโนโลยี ปีที่ 20 ฉบับที่ 3 (กรกฎาคม-กันยายน 2542) หน้า 28Summary: สำนักข่าวเอพี รายงานผลการวิจัยของ ดร.ปิแยร์ เลอบาร์ ในวารสารการแพทย์แห่งนิวยอร์คว่า สารสกัดจากต้นแป๊ะก๊วย คือ ฟลาโวนอยด์ สามารถช่วยฟื้นฟูความทรงจำ และช่วยการทำงานของสมอง โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมหรือ โรคอัลไซเมอร์ที่เกิดขึ้นกับผู้สูงอายุได้ ดร.ปิแยร์ เลอบาร์ ได้ทำการทดลองใช้สารสกัดจากต้นแป๊ะก๊วยกับผู้ป่วยที่เป็นโรคสมองเสื่อม จำนวน 300คน โดยแบ่งผู้ป่วยออกเป็น 2กลุ่มๆ ละเท่าๆ กันกลู่มหนึ่งให้รับประทานสารสกัดจากใบแป๊ะก๊วยขนาด 40มิลลิกรัม ทุกวันวันละ 3ครั้ง (มีต่อ)Summary: ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งให้ยาหลอดเพื่อเปรียบเทียบการทดลองพบว่า ผู้ป่วยที่ได้รับสารสกัดจากใบแป๊ะก๊วยจำนวนหนึ่งในสามมีอาการดีขึ้น ดร.ปิแยร์ เลอบาร์ กล่าวว่า สารฟลาโวนอยด์ จะทำหน้าที่คล้ายกับแอนติออกซิเดนท์ ที่ไปจำกัดอนุภาคของอนุมูลอิสระที่ก่อให้เกิดการทำลายเซลล์สมอง ส่วนสารเทอพินอยด์ช่วยป้องกันการแข็งตัวของเส้นเลือด ช่วยให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น ผลสำเร็จของการวินิจฉัยครั้งนี้ช่วยให้คนอเมริกันกว่า 4ล้านคน ที่กำลังเผชิญกับโรคสมองเสื่อม รวมทั้งคนทั้งโลกที่กำลังถูกโรคร้ายนี้คุกคามมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
Star ratings
    Average rating: 0.0 (0 votes)
No physical items for this record

สำนักข่าวเอพี รายงานผลการวิจัยของ ดร.ปิแยร์ เลอบาร์ ในวารสารการแพทย์แห่งนิวยอร์คว่า สารสกัดจากต้นแป๊ะก๊วย คือ ฟลาโวนอยด์ สามารถช่วยฟื้นฟูความทรงจำ และช่วยการทำงานของสมอง โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมหรือ โรคอัลไซเมอร์ที่เกิดขึ้นกับผู้สูงอายุได้ ดร.ปิแยร์ เลอบาร์ ได้ทำการทดลองใช้สารสกัดจากต้นแป๊ะก๊วยกับผู้ป่วยที่เป็นโรคสมองเสื่อม จำนวน 300คน โดยแบ่งผู้ป่วยออกเป็น 2กลุ่มๆ ละเท่าๆ กันกลู่มหนึ่งให้รับประทานสารสกัดจากใบแป๊ะก๊วยขนาด 40มิลลิกรัม ทุกวันวันละ 3ครั้ง (มีต่อ)

ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งให้ยาหลอดเพื่อเปรียบเทียบการทดลองพบว่า ผู้ป่วยที่ได้รับสารสกัดจากใบแป๊ะก๊วยจำนวนหนึ่งในสามมีอาการดีขึ้น ดร.ปิแยร์ เลอบาร์ กล่าวว่า สารฟลาโวนอยด์ จะทำหน้าที่คล้ายกับแอนติออกซิเดนท์ ที่ไปจำกัดอนุภาคของอนุมูลอิสระที่ก่อให้เกิดการทำลายเซลล์สมอง ส่วนสารเทอพินอยด์ช่วยป้องกันการแข็งตัวของเส้นเลือด ช่วยให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น ผลสำเร็จของการวินิจฉัยครั้งนี้ช่วยให้คนอเมริกันกว่า 4ล้านคน ที่กำลังเผชิญกับโรคสมองเสื่อม รวมทั้งคนทั้งโลกที่กำลังถูกโรคร้ายนี้คุกคามมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น