000 | 06929nab a2200361 4500 | ||
---|---|---|---|
001 | vtls000000243 | ||
003 | VRT | ||
005 | 20231003150150.0 | ||
008 | 120521 1998 th qr 0 0tha d | ||
012 | _aJournal | ||
035 | _a0000-24460 | ||
039 | 9 |
_a201312191116 _bVLOAD _c201207042110 _dVLOAD _y201205211705 _zVLOAD |
|
040 | _aPBRU | ||
090 | _aINDEX | ||
100 | 0 |
_aอุทัย เกตุนุติ. _9886 |
|
245 | 1 | 0 |
_aการศึกษาอัตราการใช้ไวรัส NPV ช่วงเวลาการพ่นและอัตราใช้น้ำในการควบคุมหนอนเจาะสมอฝ้ายบนองุ่น = _bStudy on dosage,applcation time and applcaion rate of nuclear polyhedrosis virus (NPV) to control the cotton bollworm, Helicoverpa armigera hubner on grape / _cอุทัย เกตุนุติ |
246 | 1 | 0 | _aStudy on dosage,applcation time and applcaion rate of nuclear polyhedrosis virus (NPV) to control the cotton bollworm, Helicoverpa armigera hubner on grape |
520 | _aองุ่น เป็นผลไม้ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศชนิดหนึ่ง นิยมบริโภคสด ตลาดมีความต้องการสูงจึงมีการนำเข้าจากต่างประเทศองุ่นทำรายได้สูงให้แก่กสิกรผู้ปลูก เนื่องจากสามารถบังคับให้ออกดอกและติดผลได้ตามต้องการโดยทั่วไปองุ่นสามารถให้ผลผลิต 2 ครั้งต่อปี (มีต่อ) | ||
520 | _aแต่สามารถให้ผลผลิต 5 ครั้งต่อ 2 ปี แหล่งที่ปลูกองุ่นส่วนใหญ่อยู่ที่บริเวณราบลุ่ม 4 จังหวัด ได้แก่ นครปฐม ราชบุรี สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม หนอนเจาะสมอฝ้าย Helicoverpa armigera Hubner จัดเป็นแมลงศัตรูพืชที่สำคัญของการปลูกองุ่น (มีต่อ) | ||
520 | _aหนอนชนิดนี้จะทำลายช่อดอกและผลอ่อน โดยจะเข้าทำลายในระยะที่องุ่นมีช่อดอกเริ่มบานไปจนกระทั่งติดผลอ่อนมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 0.5 ซ.ม. อุปสรรคสำคัญในการป้องกันกำจัดหนอนสมอฝ้ายของกสิกร คือ กสิกรไม่สามารถพ่นสารฆ่าแมลงชนิดที่เป็นน้ำมัน (Ec) (มีต่อ) | ||
520 | _aในระยะที่ดอกองุ่นเริ่มบานและระยะที่องุ่นเริ่มติดผล เนื่องจากสารฆ่าแมลงจากทำให้ช่อดอกร่วง หรือการติดผลเสียไปกสิกรจะพ่นสารฆ่าแมลงได้ต่อเมื่อองุ่นติดผลเท่าถั่วลิสง ซึ่งในระยะนี้หนอนเจาะสมอฝ้ายจะมีขนาดตัวโต (มีต่อ) | ||
520 | _aการพ่นสารฆ่าแมลงมักจะไม่ได้ผล กสิกรจึงไช้วิธีการพ่นสารฆ่าแมลงควบคู่กับการใช้แรงงานเดินจับหนอนออกจากช่อองุ่น ไวรัสชนิด nculear polyhedrosos virus ของหนอนเจาะสมอฝ้าย Helicoverpa armigera (HaNPV) (มีต่อ) | ||
520 | _aมีความเฉพาะเจาะจงในการทำลายเฉพาะหนอนเจาะสมอฝ้าย มีความปลอดภัยสูงต่อมนุษย์และสภาพแวดล้อม ไวรัสชนิดนี้พบว่าอยู่ตามธรรมชาติในประเทศไทยการนำไวรัส HaNPV มาใช้ควบคุมหนอนเจาะสมอฝ้ายนั้น (มีต่อ) | ||
520 | _aจากการทดลองพบว่า การใช้อัตรา 50 มล./น้ำ 20 ลิตร ให้ผลควบคุมความเสียหายของช่อองุ่นดีที่สุด แต่เป็นอัตราที่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับการพ่นที่อัตรา 30 มล./น้ำ 20 ลิตร สามารถควบคุมหนอนได้ไม่แตกต่างกัน (มีต่อ) | ||
520 | _aฉะนั้นจึงควรใช้ในอัตรา 30 มล./น้ำ 20 ลิตร โดยในการพ่นควรพ่นเมื่อช่อดอกดอกบาน 20 % พ่น2-3 ครั้ง ห่างกัน 4 วัน การใช้ไวรัส HaNPV นั้นสามารถนำไปใช้ทดแทนสารฆ่าแมลงที่กสิกรใช้อยู่ในแปลงองุ่นได้ (มีต่อ) | ||
520 | _aโดยกสิกรที่พ่นสารฆ่าแมลงจะต้องจ้างแรงงานคนงานออกเดินเก็บหนอนในช่อองุ่นติดต่อกัน2-3วัน ร่วมกับการพ่นสารฆ่าแมลง2-3ครั้ง แต่การพ่นไวรัส NaNPV กสิกรไม่ต้องใช้แรงงานเดินเก็บหนอนในแปลงอีก | ||
650 | 4 |
_aองุ่น _xสารฆ่าแมลง. _9887 |
|
650 | 4 |
_aแมลงศัตรูพืช _xการควบคุม. _9350 |
|
650 | 4 |
_aองุ่น _xไวรัส Na NPV. _9888 |
|
650 | 4 |
_aSCI-TECH. _9345 |
|
773 | 0 |
_tกีฏและสัตววิทยา _gปีที่ 20 ฉบับที่ 4 (ตุลาคม-ธันวาคม 2541) หน้า 236 - 246 _x0125-3794 |
|
942 | _cSERIALS | ||
999 |
_c243 _d243 |