พระราชประวัติ พลเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน

Call Number: INDEX Material type: ArticleArticleSubject(s): กำแพงเพชรอัครโยธิน, พลเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระ 2424-2479 | SCI-TECH In: ข่าวช่าง ปีที่ 28 ฉบับที่ 335 (เมษายน 2543) หน้า 38-39Summary: พลเอกพระบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน เป็นพระราชโอรสองค์ที่ 35 ในพระบาทสมเด็จพระจุลเจ้าจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่5 กับเจ้าจอมมารดาวาด (ในราชสกุลกัลยาณมิตร) มีพระนามเดิมว่า "พระเจ้าลูกยาเธอพระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร" ประสูติกาลเมื่อวันจันทร์ เดือน3 ปีมะเส็ง ตรงกับวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2424 (จ.ศ. 1243) เมื่อทรงพระเยาว์ทรงศึกษาหนังสือชั้นต้นที่โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ ในพระบรมมหาราชวัง จนเมื่อพระชนมายุครบ 12พรรษา จึงได้เสด็จทรงศึกษาในยุโรปเมื่อปี พ.ศ.2437 (มีต่อ)Summary: ทรงเริ่มศึกษาภาษาฝรั่งเศสและอังกฤษที่ประเทศฝรั่งเศส และทรงศึกษากับครูพิเศษที่แอสกอตและเข้าศึกษาที่โรงเรียนแฮร์ไธว์ ขณะนั้นพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงกำหนดให้ศึกษาด้านโยธาธิการทรงเลือกศึกษาวิชาวิศวกรรมที่ตรินิติคอลเลจ แห่งมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ จากนั้นทรงศึกษาวิชาทหารช่างที่ซัทแทม จนสำเร็จและทรงยศร้อยตรีทหารช่าง ระหว่างนั้นทรงข้ามไปศึกษาต่อที่ฝรั่งเศส และข้ามกลับมาทรงงานและศึกษาต่อในอังกฤษ จนได้รับ M.I.C.E. จากประเทศอังกฤษ (มีต่อ)Summary: จากนั้นทรงเดินทางกลับประเทศไทยในปี พ.ศ. 2447 และทรงอภิเษกสมรสกับพระองค์เจ้าหญิงประภาวสิทธินฤมล ในพ.ศ.2472 ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน พระองค์ทรงเป็นผู้ริเริ่มกิจการที่สำคัญต่อการพัฒนาประเทศหลายประการเช่น ทรงวางระเบียบการช่างทหารให้เป็นหลักฐาน ทรงเสด็จขึ้นเครื่องบินเป็นพระองค์แรกและทรงเป็นผู้บังคับบัญชาแผนกการบินทหารบก ทรงริเริ่มกิจการวิทยุกระจายเสียงในวังบ้านดอกไม้ ทรงสร้างสะพานลอยแห่งแรกของไทยคือ สะพานกษัตริย์ศึก ข้ามทางรถไฟเมื่อ พ.ศ. 2471 (มีต่อ)Summary: ทรงนำรถจักรดีเซลเข้ามาใช้ในประเทศไทยเป็นประเทศแรกในเอเชีย พ.ศ.2471ทรงคุมงานก่อสร้างสะพานปฐมบรมราชานุสรณ์ตั้งแต่ 10 มกราคม พ.ศ.2472 ถึง 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2474 และมีพระราชพิธีเปิดสะพานเมื่อวันที่ 6เมษายน 2475 นับว่าพระองค์ได้ทรงพัฒนาบ้านเมืองอย่างนานัปการ เมื่อเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475 พระองค์ได้ทรงเสด็จลี้ภัยการเมืองไปประทับที่ประเทศสิงคโปร์และประทับอยู่ที่นั้นจนสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2479 รวมพระชันษา 54 ปี 7 เดือน 22 วัน ทรงเป็นต้นราชสกุล ฉัตรชัย (มีต่อ)
Star ratings
    Average rating: 0.0 (0 votes)
No physical items for this record

พลเอกพระบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน เป็นพระราชโอรสองค์ที่ 35 ในพระบาทสมเด็จพระจุลเจ้าจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่5 กับเจ้าจอมมารดาวาด (ในราชสกุลกัลยาณมิตร) มีพระนามเดิมว่า "พระเจ้าลูกยาเธอพระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร" ประสูติกาลเมื่อวันจันทร์ เดือน3 ปีมะเส็ง ตรงกับวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2424 (จ.ศ. 1243) เมื่อทรงพระเยาว์ทรงศึกษาหนังสือชั้นต้นที่โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ ในพระบรมมหาราชวัง จนเมื่อพระชนมายุครบ 12พรรษา จึงได้เสด็จทรงศึกษาในยุโรปเมื่อปี พ.ศ.2437 (มีต่อ)

ทรงเริ่มศึกษาภาษาฝรั่งเศสและอังกฤษที่ประเทศฝรั่งเศส และทรงศึกษากับครูพิเศษที่แอสกอตและเข้าศึกษาที่โรงเรียนแฮร์ไธว์ ขณะนั้นพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงกำหนดให้ศึกษาด้านโยธาธิการทรงเลือกศึกษาวิชาวิศวกรรมที่ตรินิติคอลเลจ แห่งมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ จากนั้นทรงศึกษาวิชาทหารช่างที่ซัทแทม จนสำเร็จและทรงยศร้อยตรีทหารช่าง ระหว่างนั้นทรงข้ามไปศึกษาต่อที่ฝรั่งเศส และข้ามกลับมาทรงงานและศึกษาต่อในอังกฤษ จนได้รับ M.I.C.E. จากประเทศอังกฤษ (มีต่อ)

จากนั้นทรงเดินทางกลับประเทศไทยในปี พ.ศ. 2447 และทรงอภิเษกสมรสกับพระองค์เจ้าหญิงประภาวสิทธินฤมล ในพ.ศ.2472 ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน พระองค์ทรงเป็นผู้ริเริ่มกิจการที่สำคัญต่อการพัฒนาประเทศหลายประการเช่น ทรงวางระเบียบการช่างทหารให้เป็นหลักฐาน ทรงเสด็จขึ้นเครื่องบินเป็นพระองค์แรกและทรงเป็นผู้บังคับบัญชาแผนกการบินทหารบก ทรงริเริ่มกิจการวิทยุกระจายเสียงในวังบ้านดอกไม้ ทรงสร้างสะพานลอยแห่งแรกของไทยคือ สะพานกษัตริย์ศึก ข้ามทางรถไฟเมื่อ พ.ศ. 2471 (มีต่อ)

ทรงนำรถจักรดีเซลเข้ามาใช้ในประเทศไทยเป็นประเทศแรกในเอเชีย พ.ศ.2471ทรงคุมงานก่อสร้างสะพานปฐมบรมราชานุสรณ์ตั้งแต่ 10 มกราคม พ.ศ.2472 ถึง 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2474 และมีพระราชพิธีเปิดสะพานเมื่อวันที่ 6เมษายน 2475 นับว่าพระองค์ได้ทรงพัฒนาบ้านเมืองอย่างนานัปการ เมื่อเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475 พระองค์ได้ทรงเสด็จลี้ภัยการเมืองไปประทับที่ประเทศสิงคโปร์และประทับอยู่ที่นั้นจนสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2479 รวมพระชันษา 54 ปี 7 เดือน 22 วัน ทรงเป็นต้นราชสกุล ฉัตรชัย (มีต่อ)