ปัจจัยทำนายการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน ในเขตภาคตะวันออกของประเทศไทย / ศิริวรรณ แสงอินทร์

By: ศิริวรรณ แสงอินทร์Contributor(s): ณิชากร ชื่นอารมณ์ | รุจิรา เฉิดฉิ้มCall Number: INDEX Material type: ArticleArticleSubject(s): น้ำนมแม่Genre/Form: การเลี้ยงลูก Online resources: บทความฉบับเต็มภาษาไทย In: พยาบาลศาสตร์ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3 (กรกฎาคม-กันยายน 2563) หน้า 22-34Summary: นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดในระยะเริ่มต้นของชีวิตองค์การอนามัยโลกและองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติแนะนําว่า ทารกควรได้กินนมแม่อย่างเดียวตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 เดือน และควรกินต่อเนื่องร่วมกับอาหารตามวัยจนอายุ 2 ปีหรือนานกว่านั้น เนื่องจากนมแม่เป็นอาหารที่เหมาะสมที่สุดสําหรับทารกด้วยองค์ประกอบด้านโภชนาการ ภูมิคุ้มกัน สารต่อต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินน้ำนมแม่เปรียบเสมือนวัคซีนหยดแรกสําาหรับทารก เพราะมีภูมิต้านทานโรคที่แม่สร้างและส่งผ่านให้ลูกทางนํา้านม เด็กที่กินนมแม่จึงไม่ค่อยเจ็บป่วย และขณะที่แม่ให้นมลูกจะมีการโอบกอดลูกไว้แนบอกและสบตากัน การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จึงเป็นวิธีสร้างสายใยความรักความผูกพันระหว่างแม่กับลูก แม่และลูกจะมีการเรียนรู้และตอบสนองต่อกันทั้งทางร่างกายและอารมณ์ ทําให้ทารกที่กินนมแม่มีพัฒนาการที่ดีทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา
Star ratings
    Average rating: 0.0 (0 votes)
No physical items for this record

นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดในระยะเริ่มต้นของชีวิตองค์การอนามัยโลกและองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติแนะนําว่า ทารกควรได้กินนมแม่อย่างเดียวตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 เดือน และควรกินต่อเนื่องร่วมกับอาหารตามวัยจนอายุ 2 ปีหรือนานกว่านั้น เนื่องจากนมแม่เป็นอาหารที่เหมาะสมที่สุดสําหรับทารกด้วยองค์ประกอบด้านโภชนาการ ภูมิคุ้มกัน สารต่อต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินน้ำนมแม่เปรียบเสมือนวัคซีนหยดแรกสําาหรับทารก เพราะมีภูมิต้านทานโรคที่แม่สร้างและส่งผ่านให้ลูกทางนํา้านม เด็กที่กินนมแม่จึงไม่ค่อยเจ็บป่วย และขณะที่แม่ให้นมลูกจะมีการโอบกอดลูกไว้แนบอกและสบตากัน การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จึงเป็นวิธีสร้างสายใยความรักความผูกพันระหว่างแม่กับลูก แม่และลูกจะมีการเรียนรู้และตอบสนองต่อกันทั้งทางร่างกายและอารมณ์ ทําให้ทารกที่กินนมแม่มีพัฒนาการที่ดีทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา