คาร์บอนไดออกไซด์ / บุษรา จันทร์แก้วมณี

By: บุษรา จันทร์แก้วมณีCall Number: INDEX Material type: ArticleArticleSubject(s): SCI-TECH | คาร์บอนไดออกไซด์ In: กีฏและสัตววิทยา ปีที่ 21 ฉบับที่ 3 (กรกฎาคม-กันยายน 2542) หน้า 194 - 197Summary: คาร์บอนไดออกไซด์เป็นสารที่ใช้ทำน้ำอัดลม โซดาและเบียร์ และคาร์บอนไดออกไซด์ยังมีประโยชน์ในแง่อุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น การเชื่อม หล่อโลหะ เป็นสารเคมีดับเพลิง เก็บรักษาอาหารในรูปของน้ำแข็งแห้ง คุณสมบัติของคาร์บอนไดออกไซด์คือ สามารถอยู่ได้ใน 3สถานะ คือ ของแข็ง ของเหลว และก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์ที่ผลิตได้ในทางอุตสาหกรรมจะถูกเก็บอยู่ในสถานะของเหลวในภาชนะทนความดัน คาร์บอนไดออกไซด์ในสภาพก๊าซจะไม่มีสี แต่มีกลิ่นคล้ายน้ำโซดา (มีต่อ)Summary: ในบรรยากาศปกติ จะมีคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ประมาณไม่เกิน 0.03% หรือ 300 ส่วนใน 1ล้านส่วน เมื่อสัมผัสถูกตัวคนจะไม่เป็นอันตราย แต่สำหรับน้ำแข็งแห้งไม่ควรจับด้วยมือเปล่า เนื่องจากเย็นจัดทำให้ความร้อนทั้งหมดในร่างกายจะวิ่งไปที่จุดๆ เดียวบนมือ เกิดความร้อนจัด ซึ่งทำให้ไหม้ได้ การใช้คาร์บอนไดออกไซด์ในอุตสาหกรรมจะใช้สำหรับสิ่งต่างๆ ดังนี้คือ เบียร์และน้ำอัดลม, การเชื่อม, การดับเพลิง ส่วนทางด้านการเกษตร ใช้สำหรับการเก็บรักษาผลไม้และผัก ยืดอายุการใช้งานของไม้ดอก (มีต่อ)Summary: ขจัดความฝาดของไม้ผล, การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (เพิ่มผลผลิตในการปลูกพืช และเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ) และการป้องกันกำจัดแมลง ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นก๊าซที่มีประโยชน์อย่างยิ่ง ทั้งในด้านอุตสาหกรรมและเกษตรกรรม ซึ่งมีทั้งประโยชน์และก็โทษเช่นเดียวกัน ข้อเสียของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ในทางตรงที่เห็นได้ชัดเจนคือ หากมีการใช้มากขึ้น นับว่าเป็นการเพิ่มปริมาณของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศที่มนุษย์เราใช้หายใจอยู่ด้วย (มีต่อ)Summary: ซึ่งทำให้อากาศบริสุทธิ์น้อยลงนั่นเอง นอกจากนั้นคาร์บอนไดออกไซด์ทำให้เกิดสภาวะเรือนกระจก (green house effect) โดยคาร์บอนไดออกไซด์ จะทำให้รังสีอุลตราไวโอเลตไม่กลับออกจากโลก ทำให้กลุ่มบุคคลที่ห่วงใยสิ่งแวดล้อมของโลก ได้พิจารณาให้มีการระงับปล่อยและการใช้คาร์บอนไดออกไซด์ ดังนั้น การวิจัยเพื่อศึกษาและปรับปรุงวิธีการใช้รูปแบบ ตลอดจนความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการนำคาร์บอนไดออกไซด์มาใช้อย่างถูกต้องเหมาะสม
Star ratings
    Average rating: 0.0 (0 votes)
No physical items for this record

คาร์บอนไดออกไซด์เป็นสารที่ใช้ทำน้ำอัดลม โซดาและเบียร์ และคาร์บอนไดออกไซด์ยังมีประโยชน์ในแง่อุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น การเชื่อม หล่อโลหะ เป็นสารเคมีดับเพลิง เก็บรักษาอาหารในรูปของน้ำแข็งแห้ง คุณสมบัติของคาร์บอนไดออกไซด์คือ สามารถอยู่ได้ใน 3สถานะ คือ ของแข็ง ของเหลว และก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์ที่ผลิตได้ในทางอุตสาหกรรมจะถูกเก็บอยู่ในสถานะของเหลวในภาชนะทนความดัน คาร์บอนไดออกไซด์ในสภาพก๊าซจะไม่มีสี แต่มีกลิ่นคล้ายน้ำโซดา (มีต่อ)

ในบรรยากาศปกติ จะมีคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ประมาณไม่เกิน 0.03% หรือ 300 ส่วนใน 1ล้านส่วน เมื่อสัมผัสถูกตัวคนจะไม่เป็นอันตราย แต่สำหรับน้ำแข็งแห้งไม่ควรจับด้วยมือเปล่า เนื่องจากเย็นจัดทำให้ความร้อนทั้งหมดในร่างกายจะวิ่งไปที่จุดๆ เดียวบนมือ เกิดความร้อนจัด ซึ่งทำให้ไหม้ได้ การใช้คาร์บอนไดออกไซด์ในอุตสาหกรรมจะใช้สำหรับสิ่งต่างๆ ดังนี้คือ เบียร์และน้ำอัดลม, การเชื่อม, การดับเพลิง ส่วนทางด้านการเกษตร ใช้สำหรับการเก็บรักษาผลไม้และผัก ยืดอายุการใช้งานของไม้ดอก (มีต่อ)

ขจัดความฝาดของไม้ผล, การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ (เพิ่มผลผลิตในการปลูกพืช และเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ) และการป้องกันกำจัดแมลง ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นก๊าซที่มีประโยชน์อย่างยิ่ง ทั้งในด้านอุตสาหกรรมและเกษตรกรรม ซึ่งมีทั้งประโยชน์และก็โทษเช่นเดียวกัน ข้อเสียของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ในทางตรงที่เห็นได้ชัดเจนคือ หากมีการใช้มากขึ้น นับว่าเป็นการเพิ่มปริมาณของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศที่มนุษย์เราใช้หายใจอยู่ด้วย (มีต่อ)

ซึ่งทำให้อากาศบริสุทธิ์น้อยลงนั่นเอง นอกจากนั้นคาร์บอนไดออกไซด์ทำให้เกิดสภาวะเรือนกระจก (green house effect) โดยคาร์บอนไดออกไซด์ จะทำให้รังสีอุลตราไวโอเลตไม่กลับออกจากโลก ทำให้กลุ่มบุคคลที่ห่วงใยสิ่งแวดล้อมของโลก ได้พิจารณาให้มีการระงับปล่อยและการใช้คาร์บอนไดออกไซด์ ดังนั้น การวิจัยเพื่อศึกษาและปรับปรุงวิธีการใช้รูปแบบ ตลอดจนความเข้มข้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการนำคาร์บอนไดออกไซด์มาใช้อย่างถูกต้องเหมาะสม